Hellblade กับอนาคตของ Storytelling แบบ Real-Time Cinematic
🎬 Hellblade กับอนาคตของ Storytelling แบบ Real-Time Cinematic บทนำ: เมื่อ “ภาพยนตร์” และ “เกม” หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว อนาคตของ Storytelling ในอดีต “ภาพยนตร์” และ “วิดีโอเกม” เป็นสองโลกที่แยกจากกันโดยสิ้นเชิงโลกหนึ่งเน้นการเล่าเรื่อง ส่วนอีกโลกเน้นการเล่นแต่ในปี 2017 Hellblade: Senua’s Sacrifice จากสตูดิโอ Ninja Theoryได้พิสูจน์ว่าทั้งสองสิ่งสามารถ “กลายเป็นสิ่งเดียวกัน” ได้ และเมื่อมาถึงภาคต่อ Hellblade II: Senua’s Sagaทีมพัฒนาได้ยกระดับการเล่าเรื่องไปอีกขั้นด้วยสิ่งที่เรียกว่า“Real-Time Cinematic Storytelling” —การผสมผสานระหว่างภาพยนตร์กับเกมที่เกิดขึ้น “สดจริง” ทุกวินาทีที่ผู้เล่นเคลื่อนไหว มันไม่ใช่แค่เทคนิคใหม่ แต่คือ “การปฏิวัติการเล่าเรื่องแบบอินเทอร์แอคทีฟ”ที่อาจกลายเป็นทิศทางใหม่ของวงการเกมทั้งอุตสาหกรรม Section 1: